แบบบ้านสองชั้น

แบบบ้านสองชั้น

แบบบ้านสองชั้น

แบบบ้านสองชั้น

แบบบ้านสองชั้น Aging in Place บ้านโมเดิร์นอยู่สบายไปจนชรา Aging in Place หรือ ชราไปในที่เดิม คำนี้อาจจะไม่ได้ยินในบ้านเราบ่อยนัก แต่ในออสเตรเลียสิ่งนี้กำลังขยายวงกว้างขึ้นเรื่อย ๆ เพราะที่ไหน ๆ ก็ก้าวสู่สังคมของวัยชรา ที่ผู้สูงวัยมีอายุยืนยาวขึ้นจึงต้องออกแบบบ้านเพื่อตอบสนองการใช้งาน

ทำให้คนแก่สามารถมีชีวิตอยู่ในบ้านที่ผูกพันได้ตลอดช่วงชีวิตที่เหลืออยู่ โดยมีความช่วยเหลือจากระบบจัดการหรือเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยให้ผู้สูงวัยมีคุณภาพชีวิตที่ดีในบ้านของตัวเองได้อย่างอิสระและปลอดภัย โดยไม่ต้องถูกส่งไปที่สถานรับเลี้ยงคนชรา บ้านหลังนี้เป็นอีกหนึ่งโปรเจ็คที่ออกแบบมาเพื่อสิ่งนั้น ตอบโจทย์ให้เจ้าของสุขใจในวัยเกษียณจวบจนวาระสุดท้ายในบ้านที่รัก

บ้านโมเดิร์นผู้สูงวัย

เจ้าของบ้านอาศัยอยู่ในบ้านที่สร้างตั้งแต่ปลายยุค 90 มานานกว่าสามสิบห้าปี และอธิบายว่าจุดนี้เป็น “ที่ที่น่าอยู่” แต่เธอก็รู้สึกว่าบ้านเดิมไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควร เธออยากได้บ้านที่มีพื้นที่ต้อนรับนักร้องประสานเสียงในท้องถิ่นได้สบายๆ เพื่อสร้างความบันเทิงให้เพื่อนฝูงและเพื่อนบ้าน แม้ว่าเธอจะมีมุมโปรดในบ้านเดิมหลายด้าน แต่เธอก็อยากมีสวนใหม่ที่กว้างขวางเข้าถึงง่าย ใช้เวลาว่างดูแลต้นไม้ นั่งชิลกินลมชมแดด จิบชายามบ่ายๆ มองไปทางไหนก็เต็มไปด้วยดอกไม้ เป็นของขวัญชิ้นใหญ่ให้ตัวเองได้อยู่กับธรรมชาติทุก ๆ วันไปจนแก่

บ้านที่นี่ส่วนใหญ่เป็นบ้านตัวอย่างที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี และยังคงสภาพเดิมของการพัฒนาสถาปัตยกรรมในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 ที่ Yarra Bend House สถาปนิกจึงใช้แนวทางอยู่ร่วมกันได้ของบ้าน 2 ยุคในระยะยาว โดยออกแบบบ้านที่ใช้งานได้จริง ยืดหยุ่น และรองรับอนาคตได้ดี โดยการรักษาส่วนหน้าดั้งเดิมของบ้านไว้ แล้วต่อเติมด้านหลัง ทำให้ปริมาณขยะเหลือทิ้งจากจากการรื้อถอนอาคารลดลง รวมทั้งลดวัสดุโครงสร้างใหม่ที่มีคาร์บอนเข้มข้นลงด้วยเป็นการช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในอีกทาง

 บ้านโมเดิร์นผู้สูงวัย

จากบ้านเดิมเข้ามาสู่ส่วนต่อเติมที่ด้านหลังจะผ่านโถงทางเดินและคอร์ทยาร์ด ตรจุดนี้จะทำผนังกระจกเชื่อมต่อกับมุมครัว เพื่อให้แสงธรรมชาติส่องกระจายเข้าไปเพิ่มความสว่าง ทำให้ครัวใหม่แทบไม่ต้องเปิดไฟในช่วงกลางวัน และยังเพิ่มความสุนทรีในการทำครัวด้วย

ผู้สูงวัยจำเป็นต้องยึดติดกับอะไรเดิมๆ หรือวิธีการตกแต่งร่วมสมัยเชยๆ เก่าๆ หรือเปล่า คำตอบคงมีให้เห็นได้ในบ้านหลังนี้แล้วว่าไม่เสมอไป เราจะเห็นการนำโครงสร้างของเหล็กที่เป็นระแนง ตะแกรงเหล็ก ผสมผสานการใช้ไม้ในรูปแบบใหม่ๆ ทำให้บ้านดูทันสมัยไม่ตกยุค มีชีวิตชีวา และสามารถใช้งานได้ดี สำหรับตอนที่ยังสามารถเดินขึ้นข้างบนได้ก็อาจเปลี่ยนบรรยากาศไปพักผ่อนเงียบๆ ชมวิวด้านบน แต่ในยามชราลงก็ใช้ชีวิตข้างล่างเป็นส่วนใหญ่

จากโถงบันไดจะนำทางขึ้นมาสู่ห้องนั่งเล่นส่วนตัวที่เชื่อมต่อกับระเบียงชั้นบนผ่านประตูบานสไลด์ติดกระจกใส ซึ่งสามารถเปิดออกได้กว้างทั้งด้านหน้าและหลัง ทำให้เกิดการระบายอากาศแบบข้ามช่องจากประตูหน้าต่าง พร้อมพัดลมเพดานช่วยลดการพึ่งพาการระบายความร้อนด้วยเครื่องปรับอากาศ หน้าต่างทุกบานเป็นกระจกสองชั้นให้ความสว่างแต่ปกป้องภายในจากความร้อน ส่วนพื้นปูด้วยไม้ให้ความอุ่นกับเท้าในฤดูหนาว ตรงจุดนี้สามารถรองรับเพื่อน ๆ ที่จะมาซ้อมคอรัสได้ดี หรือจะซ้อมที่ห้องทานข้าวพร้อมชมสวนไปด้วยในบางโอกาสก็ไม่มีปัญหา

 บ้านโมเดิร์นผู้สูงวัย

ฟาซาดเหล็กโปร่งๆ สีขาวที่อยู่ทางทิศเหนือ จะสร้างมิติของแสงเงาให้กับช่องกระจกขนาดใหญ่ ไม่ให้แสงจากดวงอาทิตย์ในฤดูร้อนส่องโดยตรงไปถึงพื้นที่ภายใน ในขณะที่ปล่อยให้ดวงอาทิตย์ฤดูหนาวอุ่นมวลความร้อนของแผ่นพื้นคอนกรีตของชั้นล่าง

ความรู้สึกของบ้านเมื่อตกแต่งด้วยงานไม้ แม้เพียงครึ่งซีกของผนังก็ทำให้รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและอ่อนโยน การใช้ไม้ท่อนเล็ก ๆ ตีให้ราบเรียบไปกับโครงที่รองรับ ไม่ตีซ้อนเกล็ด ยังทำให้บ้านดูเก๋แบบร่วมสมัยแต่ไม่เชย

วัสดุที่ใช้ภายนอกในการเพิ่มใหม่มีความทนทานและบำรุงรักษาต่ำ นอกจากอิฐแดงรีไซเคิลที่โชว์ผิวสัมผัสของปูนก่อที่ย้อยออกมาอย่างตั้งใจแล้ว วัสดุที่ห่อหุ้มบ้านโทนสีขาวยังได้รับการคัดเลือกเพื่อเพิ่มการสะท้อนแสงอาทิตย์สูงสุด ช่วยลดความต้องการในการระบายความร้อนด้วยกลไก แม้ว่าไซต์จะมีความกว้างจำกัด แต่แสงธรรมชาติและการระบายอากาศในทุกพื้นที่ได้รับการขยายให้ใหญ่สุด

ในช่วงเวลาปลายๆ ของการใช้ชีวิต เจ้าของบ้านอาจต้องย้ายกลับลงมาใช้ชีวิตในชั้นล่างเป็นหลักเพื่อความสะดวกและปลอดภัย ถึงอย่างนั้นก็ยังสามารถเปิดประตูออกมาชื่นชมสวน รับบรรยากาศสดชื่นของธรรมชาติได้ง่ายๆ ในส่วนการเข้าถึงและเชื่อมต่อสวนนี้อาจมีการปรับเปลี่ยนให้มีทางลาดและความเรียบในสวนมากขึ้น วัสดุปูพื้นที่ใช้กลางแจ้งต้องเปลี่ยนเป็นวัสดุที่ไม่ลื่น ทนความชื้นให้สามารถเดินเล่นได้อย่างปลอดภัย หรือใช้รถเข็นได้สะดวกต่อไป

ในการตกแต่งบ้านำหรับผู้สูงวัยในอนาคต เรื่องความปลอดภัยจะมาเป็นอันดับหนึ่ง ดังนั้นจึงต้องใส่ใจเรื่องวัสดุ โดยเฉพาะวัสดุปูพื้นภายในรวมถึงวัสดุพื้นภายนอกที่อาจจะลื่นได้  อุปกรณ์ฟิตติ้งต่าง ๆ ซึ่งเป็นรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ

ก็เป็นจุดสำคัญ ที่จะอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุ และไม่ควรมองข้าม อาทิ ก๊อกน้ำ ควรเลือกหัวก็อกแบบกดลง ปัดขึ้น หรือปัดข้าง ไม่ควรใช้แบบหัวหมุน เพราะต้องใช้แรงในการจับแล้วบิดมากกว่า ทำให้ใช้งานยากขึ้น เป็นต้น สำหรับห้องน้ำควรแยกส่วนเปียกส่วนแห้ง มีความกว้างพอให้รถเข็นเข้าได้ในอนาคต และมีราวจับพยุงตลอดทาง เพื่อป้องกันการลื่นล้มในห้องน้ำ เป็นต้น

 บ้านโมเดิร์นผู้สูงวัย

แบบบ้านการอาศัยอยู่เป็นครอบครัวของคนไทยนั้นเป็นเรื่องปกติมาก ๆ เชื่อว่าหลายคนในที่นี้มีผู้สูงวัยเป็นหนึ่งในสมาชิกคนสำคัญของที่บ้านที่ต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษใช่มั้ยคะ ส่วนตัวที่บ้านเราก็มีคุณยายอาศัยอยู่ด้วย ทำให้รู้เลยว่าการออกแบบหรือตกแต่งบ้านโดยคำนึงถึงการใช้งานของพวกเขานั้นเป็นเรื่องที่เราไม่ควรมองข้ามเลยค่ะ วันนี้ก็เลยลองรวบรวมไอเดียการสร้างบ้านที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องต่าง ๆ ให้ผู้สูงอายุในบ้านเราได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและปลอดภัยกันค่ะ 🙂

5 ไอเดียสร้างบ้านปลอดภัยให้แก่ผู้สูงวัย

1. พื้นบ้าน
เริ่มจากเรื่องเบสิกแต่มีความสำคัญมาก ๆ กันก่อนเลยนะคะ พื้นบ้านนั้นไม่ควรมีความมันวาว เพราะมันง่ายต่อการเกิดอุบัติเหตุอย่างการลื่นล้ม เราควรหันมาใช้พื้นบ้านที่มีความฝืดของผิวสัมผัสแทน ตอนนี้ที่เห็นคนนิยมใช้กันก็พวก พื้น SPC ค่ะ นอกจากจะกันลื่นแล้วยังกันพวกปลวกด้วยนะคะ ทำความสะอาดง่ายและไม่เย็นเท้า เหมาะกับผู้สูงวัยมาก ๆ เลยค่ะ อีกเรื่องของพื้นบ้านที่อยากจะเสริมก็คือ เราไม่ควรมีพื้นต่างระดับนะคะ ควรจะเป็นการปูพื้นให้เรียบในระดับเดียวกันไปเลยค่ะ 

2. ราวจับ
ถ้าเราสังเกตดี ๆ จะรู้ว่าผู้สูงอายุหลายคนจะไม่ค่อยมีการทรงตัวที่ดีมากนัก เวลาเดินไปไหนมาไหนก็ต้องมีที่ให้จับเพื่อพยุงตัวเองไว้เสมอค่ะ ยิ่งตอนเข้าห้องนํ้าก็จะชอบไปจับอ่างล้างหน้าหรือโถ่สุขภัณฑ์ ซึ่งจริง ๆ พวกนี้ไม่ค่อยมีความแข็งแรงเลยค่ะ อาจจะหลุดมาตอนไหนก็ได้ ดังนั้นถ้าจะให้ดีก็ควรติดตั้งราวจับที่มีความแข็งแรงไว้ในจุดสำคัญ ๆ ตั้งแต่ทางเข้าห้องนํ้าไปจนถึงบริเวณที่อาบนํ้าเพื่อความปลอดภัยนะคะ 

 บ้านโมเดิร์นผู้สูงวัย

3. ประตู
สำหรับบางครอบครัวที่มีผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็นนั้น แนะนำว่าบานประตูควรจะมีความกว้างมากกว่าปกติเพื่อที่จะสะดวกต่อรถเข็นให้เข้าออกได้สะดวก ซึ่งจริง ๆ ไม่ควรกว้างน้อยกว่า 900 มิลลิเมตรนะคะ

เรื่องประตูอีกอย่างที่อยากจะบอกทุกคนคือ การใช้ประตูแบบเลื่อนจะดูสะดวกกับผู้สูงอายุมากกว่าแบบบานเปิดนะคะ ไม่ว่าจะเป็นคนที่ไม่ใช้รถเข็นก็ดีหรือคนที่นั่งรถเข็นก็ดี ประตูบานเลื่อนจะปลอดภัยกว่าค่ะ 

4. สวิตช์ไฟ
จากประสบการณ์ส่วนตัว ในกลางดึกระหว่างที่ทุกคนปิดไฟนอนแล้ว คุณยายมักจะชอบลุกขึ้นมาเข้าห้องนํ้าตอนกลางคืนบ่อยมากค่ะ ก็เลยรู้สึกว่า การติดตั้งสวิตช์ไฟควรเป็นอะไรที่ใหญ่ เด่นชัด มองเห็นได้แม้จะอยู่ในที่มืด และใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน ถ้าจะให้ดีคิดว่าควรมีแผงสวิตช์ไฟอยู่ใกล้กับหัวเตียงหรือในบริเวณที่ผู้สูงอายุลุกมาจากเตียงแล้วเอื้อมถึง เพื่อสร้างความสะดวกและความปลอดภัยให้กับผู้สูงอายุค่ะ

5. เครื่องส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ
เพราะว่าเราไม่ได้อยู่ใกล้พวกเขาตลอดเวลา ดังนั้นการติดตั้งเครื่องส่งสัญญาณอย่างในห้องนอนหรือห้องนํ้าก็เป็นสิ่งจำเป็น เผื่อเกิดเหตุการฉุกเฉินขึ้นจะได้ไปช่วยไว้ได้ทันเวลาค่ะ 

นอกจากเครื่องส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือแล้ว เราก็ยังคิดว่าในบางเคสการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ก็สำคัญนะ เพราะจะเป็นสิ่งที่ทำให้รู้ว่าระหว่างที่เราไม่ได้อยู่ด้วยเกิดอะไรขึ้นบ้าง บางทีพวกเขาอาจจะล้มหัวฟาดพื้น แต่ไม่ได้บอกเราเพราะคิดว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก แบบบ้านซึ่งภายหลังอาจจะทำให้รักษาไม่ทันก็ได้ค่ะ

จบไปแล้วกับ 5 ไอเดียสร้างบ้านปลอดภัยให้แก่ผู้สูงวัย บอกเลยว่าจริง ๆ มันยังมีอีกหลายจุดที่วันนี้ไม่ได้พูดถึง หวังว่าจะมีประโยชน์กับทุกคนนะคะ และถ้าใครต้องการข้อมูลเพิ่มเติมในการออกแบบบ้าน แนะนำว่าไปจ้างผู้เชี่ยวชาญเลยค่ะ อย่างเราเห็นใน  ก็มีให้เลือกเยอะมากค่ะ ดูเป็นมืออาชีพและน่าเชื่อถือ หรือใครมีที่ไหนแนะนำบอกได้เลย และถ้าใครมีไอเดียอะไรเพิ่มเติม มาแชร์กันได้เลยนะคะ จะได้เป็นประโยชน์กับคนอื่น ๆ ด้วยค่ะ more info