แบบบ้านไม้ 

แบบบ้านไม้ 

Contents

แบบบ้านไม้

แบบบ้านไม้

แบบบ้านไม้ ถ้าเรามีโอกาสได้เป็นเจ้าของบ้านที่มีต้นไม้รายล้อม ให้สูดอากาศบริสุทธิ์ ซึมซับพลังงานได้เท่าที่ต้องการสักหลังคงจะดีไม่น้อย ขนาดไม่ต้องใหญ่ก็ได้แค่หลังเล็ก ๆ แต่ครบฟังก์ชันในการใช้ชีวิตประจำวันก็พอ เหมือนบ้านหลังนี้ในคารุอิซาวะ โออิวาเกะ ประเทศญี่ปุ่น มีบ้านส่วนตัวไม่กี่หลังในบริเวณโดยรอบ

เพราะมีเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแห่งชาติอยู่ทางตอนเหนือ ที่ดินแถบนี้เป็นป่าที่เก่าแก่และไซต์ที่ลาดลงเล็กๆ ไหลลงไปทางทิศใต้ ลักษณะที่ดินเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ด้านหนึ่งติดกับถนนลูกรัง จึงต้องใช้เวลาพอสมควรในการถอดรหัสรูปร่างของไซต์ แล้วเลือกการออกแบบที่เข้ากับความพิเศษของที่ดิน ออกมาเป็นบ้านไม้เล็ก ๆ ไล่ระดับเหมือนทำนาข้าวขั้นบันไดไต่ระดับ มองจากภายนอกดูเหมือนเรียบง่าย แต่กลับซ่อนรายละเอียดการใช้งานที่น่าสนใจอยู่ข้างใน

บ้านน้อยในป่า

เพื่อความเป็นมิตรกับธรรมชาติ สถาปนิกจึงตัดสินใจที่จะใช้วิธีก่อสร้างที่ปล่อยให้รูปร่างของไซต์เป็นเหมือนเดิม พยายามไม่แตะต้องผิวหน้าดินมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และตั้งค่าพื้นในระดับต่างๆ ล้อไปกับภูมิประเทศตามธรรมชาติ โดยใช้วิธีการก่อสร้าบ้านไม้แบบดั้งเดิม เพื่อให้ความรู้สึกกลมกลืนเป็นผืนเดียวกับป่า

แบบบ้านไม้

อาคารมีชั้นเดียวแต่พื้นถูกยกขึ้นจากพื้นดินและวางบนเสาคอนกรีตให้มีความต่างระดับรวม 3 ระดับ ชั้นล่างเป็นพื้นที่นั่งเล่นกึ่งกลางแจ้งมาพร้อมหลังคา พื้นระดับกลางจะเป็นโซนใช้ชีวิตหลัก ๆ  และชั้นบนห้องส่วนตัว ห้องน้ำ ห้องทำงานที่แยกอิสระ ในพื้นที่ใช้สอยรวม 53.93 ตารางเมตร

จากม้านั่งไม้ยาว ๆ ที่ออกมารับลมชมแสงแดดที่สาดส่องมาอย่างอ่อนโยนชิล ๆ ได้ทั้งวัน จะมีช่องว่างระหว่างระเบียงและโถงที่สามารถเปิดและใช้งานร่วมกันได้อย่างเต็มที่ เมื่อขึ้นบันไดไม้เข้ามาในบ้านระดับ 2 จเห็นว่าม้านั่งบนระเบียงและม้านั่งติดหน้าต่างในห้องโถงจะถูกจัดวางในแนวทแยงกัน และพื้นที่ทั้งสองจะเว้นระยะห่างกันมากที่สุด เพื่อให้สมาชิกในบ้านสามารถเพลิดเพลินกับพื้นที่ในป่ากับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่โดยไม่บดบังทิศทางซึ่งกันและกัน

ไม่ว่าจะเป็นภายนอกหรือภายในตกแต่งด้วยไม้แท้ทั้งหมด บ้านจึงดูอบอุ่น อ่อนโยน และเป็นธรรมชาติ การจัดแปลนภายในบ้านใช้แนวคิด open plan ไม่มีผนังแบ่งกั้นแต่ละห้องอย่างเป็นสัดส่วนชัดเจน เพื่อให้แต่ละชั้นสามารถใช้อย่างยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการใช้งานตามวัตถุประสงค์หลัก ๆ เท่านั้น 

ตัวอย่างเช่น ชั้นล่างเป็นระเบียงทางเข้า เฉลียงที่นำไปสู่สวน และห้องอาหารหลัก ชั้นกลางเป็นห้องโถงเอนกประสงค์ที่มีห้องครัว ม้านั่ง และเตาผิงให้ความอบอุ่นในฤดูหนาว ทุกฟังก์ชันพยายามจัดให้อยู่ในมุมหรือติดผนังบ้าน ไม่มีอะไรวางอยู่ตรงกลาง จึงสามารถขยับโต๊ะเก้าอี้ไปมาได้ หรือแม้กระทั่งปูที่นอนเพิ่มเมื่อมีแขกมาพักก็ยังได้

ข้าง ๆ เคาน์เตอร์ครัวจะเป็นพื้นที่เตียงนอนที่ถูกยกระดับขึ้น3-4 สเต็ป เชื่อมต่อกับห้องโถงที่อยู่ต่ำลงไปโดยไม่ต้องก่อผนังกั้นเป็นห้อง กลายเป็นวิธีการแบ่งขอบเขตใช้งานที่ไม่ทำให้บ้านเล็ก ๆ ดูแคบลง พื้นที่นี้คุณสามารถผ่อนคลายได้เต็มที่กับวิวป่าที่อยู่เหนือหน้าต่าง ตอนกลางวันเปลี่ยนฟังก์ชันมาใช้เป็นโซฟาขนาดใหญ่และเป็นเตียงนอนฝันดีในตอนกลางคืน

ห้องน้ำอยู่ข้างๆ ห้องนอน หันหน้าไปทางภูเขาฝั่งตรงข้ามจากถนน เพื่อให้เป็นที่ที่เพลิดเพลินไปกับความมีชีวิตชีวาของผืนป่าที่เป็นส่วนตัว ในห้องน้ำมีอ่างไม้สี่เหลี่ยมแบบบ้านญี่ปุ่นที่ชวนให้แช่น้ำร้อนๆ นอนดูทิวทัศน์ต้นไม้ ดวงดาวอย่างแสนสุนทรีนยามค่ำมาเยือน

ชั้นลอยที่อยู่ระดับบนสุด เป็นห้องใต้หลังคาที่มีบันไดไม้ให้ปีนขึ้น ค่อนข้างเป็นส่วนตัว เหมาะกับการนนั่งทำสมาธิ อ่านหนังสือ ทำงาน ที่เงียบสงบ เมื่อต้องการพักสายตาก็แค่มองออกไปนอกหน้าต่าง ความเขียวขจีและความสดชื่นภายนอกก็พร้อมที่จะบำบัดความล้าทั้งหมดในทันที

บ้านน้อยในป่า

สำหรับบ้านที่มีลักษณะไม่ราบเรียบเท่ากัน หรือเป็นเนินลาดลงมา ข้อจำกัดในการสร้างบ้านจะอยู่ที่งบประมาณในการปรับหน้าดินให้เท่ากัน ซึ่งต้องใช้เวลา ทรัพยากรแรงงาน และงบประมาณที่มากขึ้น  การปรับหน้าดินจึงอาจไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องเสมอไป ในบางพื้นที่สถาปนิกจะใช้วิธีการยกตัวบ้านขึ้นวางบนเสาให้ระดับอาคารแต่ละส่วนเท่ากัน หรือไม่ก็ใช้วิธีเล่นระดับภายในไปตามความลาดชันไปเลย ก็จะได้บ้านที่มีมิติ ในบ้านที่อยู่ระดับบนสุดจะให้วิวที่กว้างและไกลขึ้น หากมีมุมมองภูมิทัศน์ดี ๆ จะถือเป็นข้อได้เปรียบของบ้าน นอกจากนี้ยังเป็นการลดการทำลายหน้าดิน สิ่งมีชีวิต และต้นไม้ที่อยู่มาก่อนได้ดีด้วย

บ้านไม้อยู่แล้วดีอย่างไร? รวม 10 ข้อดีของการอยู่อาศัยในบ้านไม้

ในอดีต ไม้ เป็นวัสดุหลักที่มนุษย์เรานำมาใช้ในการสร้างบ้าน เนื่องด้วยไม้สามารถหาได้ง่ายตามธรรมชาติ แม้ว่าในปัจจุบันนี้เราจะมีวัสดุทดแทนต่างๆ มากมายที่ใช้เป็นวัสดุในการสร้างบ้าน แต่ความนิยมในการใช้ไม้สร้างบ้านกลับไม่เคยลดลงไปตามกาลเวลาเลย

หลายคนคงเกิดการตั้งคำถามอยู่ในใจว่าเป็นเพราะอะไร ใช้ไม้สร้างบ้านจะดีจริงหรือ? ต้นทุนวัสดุก่อสร้างก็ไม่ใช่ถูกๆ อยู่อาศัยแล้วจะคุ้มค่าไหม? อยู่ในบ้านที่สร้างด้วยไม้จะเป็นอย่างไร? ซึ่งในบทความนี้จะขอนำเสนอ 10 คำตอบของคำถามมากมายเหล่านี้ให้ครับ

บ้านน้อยในป่า

1. บ้านไม้อยู่แล้วเย็นสบายไม่อบอ้าว

แม้ว่าไม้จะไม่ได้มีคุณสมบัติในการป้องกันความร้อนเท่าไหร่นัก แต่ข้อดีของไม้ คือสามารถถ่ายเทความร้อนออกไปได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้อุณหภูมิภายในบ้านลดลง และไม่ร้อนอบอ้าว ยิ่งในช่วงกลางคืน บ้านไม้ยิ่งมอบความเย็นสบายได้มากกว่าวัสดุอื่น

2. บ้านไม้ทำให้พื้นที่ดูกว้างขวางขึ้น

ด้วยลักษณะของพื้นและผนังไม้ที่เป็นแผ่นแนวยาว จึงทำให้เกิดความรู้สึกว่าห้องดูกว้างขวางกว่าความเป็นจริง อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติ มอบความสบาย ทำให้ไม่รู้สึกแออัดในพื้นที่กรอบสี่เหลี่ยมเดิมๆ

3. บ้านไม้สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้หลากหลาย

เนื่องจากไม้เป็นวัสดุ ที่มีความยืดหยุ่นสูง หากต้องการปรับแต่ง ต่อเติมก็สามารถทำได้ง่าย ไม้สามารถนำมาตกแต่งโดยผสมผสานเข้ากับวัสดุอื่นๆ ได้อย่างลงตัว โดยเรา จะเห็นแบบบ้านไม้ ผสมกับปูนอยู่บ่อยๆ หรือจะเป็นโครงสร้างเหล็กผสมกับไม้ก็มีให้ เห็นกันทั่วไป นอกจากนี้ บ้านไม้ยังสามารถโยกย้าย และรื้อถอนเพื่อนำไปปลูกสร้างในที่ดินผืนใหม่ได้ ต่างจากปูนที่ต้องทุบทิ้งอย่างเดียว คลิ๊กที่นี่

4. บ้านไม้อยู่แล้วอากาศถ่ายเท

เนื่องจากบ้านไม้จะมี ช่องว่างตามรอยต่อของไม้ในจุดต่างๆ จึงทำให้มีความโปร่ง และสามารถถ่ายเทอากาศได้ดีกว่า จึงช่วยให้หายใจสะดวก ไม่อุดอู้ ต่างจากบ้านปูนที่หากไม่เปิดเครื่องปรับอากาศ จะมีความร้อนมากกว่า

5. บ้านไม้อยู่แล้วปลอดภัยจากแผ่นดินไหวมากกว่า

เมื่อเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว มักพบว่าบ้านที่ทำจากวัสดุไม้เป็นหลัก จะเกิดความเสียหายน้อยกว่า หรือ บางครั้งก็ไม่พบความเสียหายเกิดขึ้นเลย นั่นเป็นเพราะความแข็งแรงของไม้ที่แฝงความยืดหยุ่นในตัวเอง ในขณะที่บ้านประเภทอื่น เมื่อเกิดแผ่นดินไหวอาจเกิดการแตกตัว แต่ไม้จะยังคงทนอยู่ในจุดที่สูงกว่านั่นเอง ประกอบกับโครงสร้างไม้มีน้ำหนักเบากว่า เมื่อเกิดแรงปะทะจากแผ่นดินไหว จึงเกิดแรงปะทะที่น้อยกว่าโครงสร้างที่มีน้ำหนักมากกว่า เช่น ปูน เป็นต้

บ้านน้อยในป่า

6. บ้านไม้มีความคงทน มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน

หากบ้านไม้ของเราสร้างขึ้นจากไม้เนื้อแข็งคุณภาพดีเป็นหลัก อย่างไม้สัก หรือไม้เนื้อแข็งชนิดต่างๆ ประกอบกับการดูแลเอาใจใส่รักษาเนื้อไม้เป็นอย่างดี เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์น้ำยารักษาเนื้อไม้ “Solignum Colourless TK” ป้องกันปลวก และแมลงทำลายเนื้อไม้ ก็จะได้บ้านที่มีความคงทน อยู่อาศัยได้ยาวนาน 

7. บ้านไม้อยู่แล้วเท่ คลาสสิก มีรสนิยม

บ้านไม้ ไม่เคยตกยุคตกสมัย ไปตามกาลเวลา เพราะบ้านไม้อยู่ร่วมสมัยกับคนเรามาโดยตลอด ให้ความคลาสสิก ที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานกี่ปีก็ยังคงสร้างรสนิยมให้กับผู้อยู่อาศัยได้อย่างไม่เสื่อมคลาย

8. บ้านไม้อยู่แล้วรักษ์โลก เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

เทรนด์รักษ์โลกในปัจจุบัน ได้รับความนิยม กันในหลาย ๆ ภาคส่วนมากขึ้น ซึ่งการใช้ไม้ เป็นวัสดุก่อสร้างนั้นนับว่าสอดคล้องกับเทรนด์นี้ เนื่องจากไม้สามารถ นำกลับมาใช้งานซ้ำได้ สร้างใหม่ทดแทนได้ อีกทั้งยังย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ นอกจากนี้ การใช้วัสดุไม้ในการก่อสร้าง แทนวัสดุอย่างเหล็ก หรือ คอนกรีต ยังช่วยลดก๊าซเรือนกระจกจากสิ่งปลูกสร้างได้มากกว่า 80% จึงช่วยลดโลกร้อนได้อีกด้วย

9. บ้านไม้อยู่แล้วช่วยเสริมสร้างไอเดียและจินตนาการ

ในข้อนี้อาจฟังดูเป็นนามธรรม แต่หากได้สัมผัส หรือ คลุกคลีอยู่กับวัสดุไม้ จะรู้สึกได้ถึงข้อดีข้อนี้ สังเกตได้จากที่มีการใช้ไม้มาทำเป็นของเล่นเด็ก เช่น ตัวต่อไม้ ของเล่นไม้เสริมพัฒนาการ ซึ่งเด็กจะสร้างสรรค์เป็นรูปทรง สิ่งของต่างๆ ตามจินตนาการ นับได้ว่าไม่ต่างอะไรกับผู้ใหญ่อย่างเรา ที่เมื่อมองรูปทรงต่างๆ ของไม้ภายในบ้านทุกวัน ก็อาจเกิดปิ๊งไอเดียนำมาพัฒนา หรือประยุกต์เข้ากับงานที่ทำอยู่ก็เป็นได้

10. บ้านไม้อยู่แล้วทำให้รู้สึกได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ

ทุกวันนี้ไม่ว่าจะมองไป ทางไหนก็เจอแต่ตึกสูง ทั้งยังหนี ไม่พ้นปัญหามลพิษ ทางอากาศ หากได้อาศัยอยู่ท่ามกลางบ้านที่สร้างขึ้นจากวัสดุ ธรรมชาติอย่าง ไม้ คงจะ ทำให้เรารู้สึก สดชื่นมากกว่าบ้าน ที่ถูกเคลือบปิดด้วยวัสดุชนิดอื่นๆ สังเกตได้จากบ้านพัก หรือรีสอร์ท ตามสถานที่ท่องเที่ยวที่ใกล้ชิดธรรมชาติ ต่างนิยมใช้วัสดุไม้เป็นหลัก เพราะให้ความรู้สึกกลมกลืนกับธรรมชาติอย่างสมดุล ยิ่งไปกว่านั้น เนื้อไม้ยังมีความสวยงามและมอบสัมผัสที่อบอุ่นได้อีกด้วย

ทั้งหมดนี้เป็นคำตอบของ คำถามที่เกริ่นมา ทั้งหมดข้างต้นครับ และเพื่อทำให้ บ้านไม้ที่เราอยู่ อาศัยสามารถเติมเต็มประโยชน์ที่กล่าวมาทั้งหมดได้ สิ่งสำคัญ ที่ไม่ควรละเลย คือ การป้องกัน และรักษาเนื้อไม้ อันเป็นองค์ประกอบสำคัญภายในบ้านให้อยู่กับเรา ได้อย่างยาวนาน ด้วยการใช้ ผลิตภัณฑ์น้ำยารักษาเนื้อไม้ “Solignum Colourless TK” ที่มีส่วนในการป้องกัน ดูแลไม้ ไม่ให้ปลวกและแมลง ทำลายไม้มากัดกินสร้างความเสียหายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้งานง่าย โดยไม่ต้องผสมน้ำใดๆ เพียงเท่านี้เราก็สามารถอยู่อาศัยในบ้านได้อย่างอุ่นใจ หมดกังวลปัญหาปลวกกวนใจ