วิธีแต่งบ้าน ให้น่าอยู่

วิธีแต่งบ้าน ให้น่าอยู่

Contents

วิธีแต่งบ้าน ให้น่าอยู่

วิธีแต่งบ้าน ให้น่าอยู่ 1

วิธีแต่งบ้าน ให้น่าอยู่ วิธีจัดบ้านให้สะอาด ปลอดโปร่ง และน่าอยู่ อีกทั้งยังส่งผลให้มีร่างกายที่แข็งแรง จิตใจเบิกบาน อยากรู้ว่ามีวิธีจัดบ้านอย่างไร ตามไปชมพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

          นิยามคำว่าสบายของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป ซึ่งในวันนี้กระปุกดอมคอมก็ขอนำอีกหนึ่งเคล็ดลับของบ้านนี้อยู่แล้วสบาย…บ้านนี้อยู่แล้วดี จากคอลัมน์ “ดีไซน์ไอเดีย” นิตยสารบ้านและสวน เกี่ยวกับข้อควรคำนึงถึงในการสร้างบ้านหรือจัดบ้านให้สะอาด ปลอดโปร่ง และน่าอยู่มาฝากกันค่ะ นอกจากนี้วิธีจัดบ้านทั้ง 6 ข้อต่อไปนี้ ยังช่วยเสริมสร้างสุขอนามัยที่ดี ที่จะส่งผลให้ร่างกายแข็งแรงและมีจิตใจเบิกบานอีกด้วยค่

          นิยามคำว่าสบายของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป ซึ่งในวันนี้กระปุกดอมคอมก็ขอนำอีกหนึ่งเคล็ดลับของบ้านนี้อยู่แล้วสบาย…บ้านนี้อยู่แล้วดี จากคอลัมน์ “ดีไซน์ไอเดีย” นิตยสารบ้านและสวน เกี่ยวกับข้อควรคำนึงถึงในการสร้างบ้านหรือจัดบ้านให้สะอาด ปลอดโปร่ง และน่าอยู่มาฝากกันค่ะ นอกจากนี้วิธีจัดบ้านทั้ง 6 ข้อต่อไปนี้ ยังช่วยเสริมสร้างสุขอนามัยที่ดี ที่จะส่งผลให้ร่างกายแข็งแรงและมีจิตใจเบิกบานอีกด้วยค่

1. ฝุ่นละออง ดองไว้ไม่ดี

          ฝุ่นก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้และสุขภาพที่เสื่อมถอย แต่เราก็หลีกเลี่ยงได้ยากเต็มที เพราะรอบตัวเรานั้นมีทั้งฝุ่นที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่น ผิวหนังชั้นนอกที่ผลัดเซลล์ผิว เส้นผม ขนสัตว์เลี้ยง และฝุ่นในอากาศที่เป็นมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม ขอแนะนำให้หมั่นทำความสะอาดบ้านอยู่เสมอ หากกำลังจะสร้างบ้าน ควรเริ่มจัดวางแปลนบ้านโดยลดพื้นที่ซอกหลืบที่ทำความสะอาดยากหรือพื้นที่ที่เข้าไม่ถึงให้น้อยที่สุด

ทำบานปิดให้ตู้หรือชั้นวางแบบเปิดโล่งที่ใช้จัดเก็บหนังสือหรือของโชว์ รวมถึงเรื่องเล็ก ๆ ที่อาจไม่เล็กอย่างระยะของโรงจอดรถกับประตูบ้าน หากมีพื้นที่เพียงพออาจเว้นระยะห่างสักหน่อย เพื่อจะได้ไม่ต้องจอดรถตรงกับหน้าประตูพอดี เพราะอาจเป็นการนำพาฝุ่นและควันเข้าบ้านได้ หรืออาจปลูกต้นไม้เพื่อช่วยกรองฝุ่นละอองบริเวณหน้าบ้าน ก็ทำให้บ้านสดชื่นและช่วยลดฝุ่นละอองไปด้วยในตัว บ้านไม้ สไตล์รีสอร์ท

2. กลิ่นที่พึงใจ

          บ้านหอม ๆ สร้างความประทับใจได้ตั้งแต่เปิดประตูรั้ว กลิ่นภายในบ้านมีได้ตั้งแต่กลิ่นท่อระบายน้ำ กลิ่นขยะ ฯลฯ ควรหมั่นดูแลบ่อพักขยะอย่าให้เกิดการอุดตัน ควรทิ้งขยะในภาชนะที่ปิดมิดชิด หรือทิ้งตามเวลาที่รถเก็บขยะมารับไปเพื่อไม่ให้เกิดการหมักหมมจนส่งกลิ่นเหม็นเน่า ส่วนภายในบ้านควรหมั่นตรวจสอบกลิ่นจากท่อน้ำทิ้งต่าง ๆ เช่น ท่อระบายน้ำทิ้ง จากซิงค์ในครัว ซึ่งไม่ควรมีเศษอาหารมาอุดตันหรือกลิ่นจากห้องน้ำที่เกิดจากชักโครก ควรตรวจสอบว่ามีการรั่วซึมหรือไม่ หมั่นทำความสะอาดและติดตั้งพัดลมดูดอากาศก็ช่วยได้อีกทางหนึ่ง เมื่อบ้านสะอาดแล้ว ลองหาเครื่องหอมในบ้านที่กลิ่นไม่ฉุนจนเกินไปมาใช้แทนของตกแต่งบ้านก็ได้ และยังทำให้บ้านมีกลิ่นหอมอีกด้วย

3. แสงส่อง

          แสงสว่างที่เพียงพอช่วยฆ่าเชื้อโรคและทำให้บ้านไม่อับชื้น ทิศทางการเปิดรับแสงภายในบ้านจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรวางแผนตั้งแต่เริ่มต้นออกแบบ เช่น มุมหลักที่ใช้งานพร้อมหน้าทั้งครอบครัวอย่างห้องนั่งเล่น หากใช้เวลาในช่วงเช้ามากกว่าช่วงเวลาอื่น การหันหน้าไปทางทิศตะวันออกก็ทำให้ได้รับแสงยามเช้า นอกจากนี้วัสดุที่เลือกใช้ภายในบ้านก็ไม่ควรมองข้าม ในมุมที่ต้องการให้มีแสงส่องผ่าน เช่น ครัวหรือห้องน้ำ ควรเลือกกรุกระเบื้องหลังคาไฟเบอร์กลาสแบบใสหรือทำผนังกระจก ก็ช่วยให้แสงส่องผ่านได้ดี บ้านชั้นเดียว นนทบุรี

4. วอนลมพัดพา
          ลมช่วยระบายอากาศและสร้างสภาวะน่าอยู่ได้เป็นอย่างดี การออกแบบช่องลมในบ้านจึงมีความสำคัญมาก ทิศทางลมที่ไหลเวียนเข้ามาในตัวบ้านต้องมีทางให้เข้า-ออก ดังนั้นช่องลมควรอยู่ตรงกันหรือเยื้องกัน นอกจากนี้ต้องคำนึงถึงทิศทางลมประจำฤดูด้วย เช่น ฤดูร้อนลมพัดมาจากทางทิศใต้ ฤดูหนาวลมพัดมาจากทางทิศเหนือลงใต้ และฤดูฝนลมพัดเข้ามาทุกทิศทาง มีหลายวิธีที่ช่วยให้ลมเข้าบ้าน เช่น เลือกติดหน้าต่างบานเกล็ดหรือใช้อิฐบล็อกช่องลมที่ช่วยพรางสายตาและสร้างความเป็นส่วนตัวได้ในระดับหนึ่ง

5. ไม่มีเสียงรบกวน

          มลพิษทางเสียงนับเป็นปัญหาใหญ่ที่เข้ามาขัดจังหวะความสงบภายในบ้าน วัสดุกรุที่ดีจะช่วยดูดซับเสียงทำให้บ้านเงียบและกันความร้อนไปในตัว หากใช้กระจกนิรภัยซึ่งเป็นกระจกสองแผ่นคั่นกลางด้วยพีวีบี (Polyvinyl Butyral) ที่มีคุณสมบัติเหนียวและทนทานจะช่วยลดอันตรายจากรังสียูวีและคลื่นเสียงความถี่สูงได้ หรือใช้กระจกฉนวนกันความร้อนหรือกระจก Low-E ที่ทำจากกระจกสองแผ่นประกบกัน

โดยมีอะลูมิเนียมซึ่งบรรจุสารดูดซึมความชื้นหรือก๊าซเฉื่อยคั่นกลาง ด้านนอกนิยมใช้กระจกเทมเปอร์เพื่อช่วยสะท้อนแสงได้อีกทางหนึ่ง รวมถึงใช้วัสดุสร้างบ้านแบบเดิมแต่คูณสองเข้าไปก็ช่วยเก็บเสียงได้อีกทาง เช่น ผนังยิปซั่มหรือแผ่นอะคูสติกบอร์ด หรือก่อผนังสองชั้น โดยเว้นช่องตรงกลาง บวกกับใช้วัสดุซับเสียงช่วยอีกชั้น รับรองว่าเงียบสบายสมใจ website : assetdata.land

6. สัตว์เลี้ยงและไม่อยากเลี้ยง

          สัตว์เลี้ยงสุดรักอาจนำพาสุขภาพไม่ดีมาสู่เราได้หากดูแลพวกเขาได้ไม่ดีพอ ควรกำหนดขอบเขตให้พวกเขาตั้งแต่เริ่มเลี้ยง ฝึกให้ทำกิจกรรมเป็นบริเวณ ๆ ไป เพื่อช่วยให้เราสามารถทำความสะอาดพื้นที่เหล่านี้ได้สะดวก รวมถึงสัตว์ที่เราไม่ได้อยากเลี้ยงแต่มาเองอย่างยุง หนู หรือแมลงต่าง ๆ ก็ควรออกแบบพื้นที่ให้มิดชิด ไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ ตู้ควรมีหน้าบานปิดมิดชิด และรักษาความสะอาดอยู่เสมอ ก็จะช่วยป้องกันได้อีกทางหนึ่ง

วิธีแต่งบ้าน ให้น่าอยู่ 2

เทคนิคจัดบ้านให้น่าอยู่

การจัดบ้านต้องใช้ศาสตร์และศิลป์ เช่น ทิศทางลม การรับแสง จับคู่โทนสีให้แมทกัน แล้วเทคนิคเหล่านี้ไม่ได้ยากอย่างที่คิด โดยขั้นแรกหากคุณยังไม่รู้ว่าจะตกแต่งบ้านโทนไหน ให้ลองไปดูโซนตกแต่งห้องโชว์ เพราะการดีไซน์บ้านต้องเข้าไปเห็นไปสัมผัสจริงๆ รับรู้ถึงความรู้สึกบ้านสไตล์นี้ ว่าจะเป็นแบบที่ฝันเอาไว้หรือเปล่า และดูลักษณะของเฟอร์นิเจอร์ที่ตกแต่งเอาไว้ เมื่อนำมาปรับกับที่บ้านจะได้ง่ายขึ้น

โดยเทคนิคต่อไปนี้จะทำให้บ้านของคุณน่าอยู่ไม่ยากอย่างที่คิด

1. เปิดหน้าต่างรับแสงและลมจากธรรมชาติ

แสง เป็นสิ่งสำคัญที่สร้างบรรยากาศในบ้านให้น่าอยู่ เพราะแสงจะช่วยถ่ายเทอากาศ เข้าสู่บ้าน ซึ่งบ้านที่มีลมพัดผ่านตลอด จะทำให้รู้สึกถึงความผ่อนคลาย เหมือนอยู่ใกล้กับธรรมชาติ ยิ่งถ้าเฟอร์นิเจอร์ไม้ หรือโทนน้ำตาล จะได้บ้านสไตล์มินิมอลเหมือนอยู่ญี่ปุ่น

พื้นที่ในบ้านควรมีหน้าต่าง หรือประตูกว้างๆ สร้างความรู้สึกปลอดโปร่ง โล่งสบาย เสมือนไม่มีอะไรมาขวางกั้น เป็นอิสระในความคิดและความรู้สึก 

2. ปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวในบ้าน

การมีต้นไม้ในบ้าน ช่วยให้รู้สึกสบาย อบอุ่น เหมือนอยู่ใกล้กับแหล่งธรรมชาติ และสีเขียวเป็นสีโทนเย็น สร้างความผ่อนคลายให้กับคนที่เห็น ซึ่งตำแหน่งของต้นไม้ มีหลายสัดส่วนยอดฮิต เช่น อยู่ตรงห้องรับแขก  หน้าต่างบันได บนโต๊ะเขียนหนังสือ หรือจะตกแต่งสวนหย่อมเล็กๆ เพิ่มเติมก็ทำให้บ้านอากาศดีขึ้น อาจจะมีอ่างเลี้ยงปลาเล็กๆ หรือน้ำพลุจิ๋ว เป็นมุมร่มรื่นของบ้านก็จะช่วยให้บ้านน่าอยู่มากขึ้น

3. สะอาดและปลอดโปร่ง

ความสะอาดเป็นพื้นฐานของบ้านที่น่าอยู่ เพราะจะช่วยสร้างความสบายใจ และยังปลอดภัยต่อสิ่งสกปรกที่มากับฝุ่นให้กับสมาชิกในบ้านอีก แต่คำว่าสะอาดนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของฝุ่นละอองเท่านั้น ยังเป็นเรื่องของการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้เป็นระเบียบ หรือข้าวของต่างๆ ที่ควรอยู่ในตำแหน่งที่จัดไว้

แนะนำว่าให้เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีพื้นที่เก็บเยอะ เวลาบ้านมีของจะได้มีพื้นที่เก็บ นอกจากความสวยงามแล้ว ยังช่วยให้บ้านกว้างขึ้นอีกด้วย

4. สร้างกลิ่นหอมภายในบ้าน

กลิ่น เป็นอีกสัมผัสที่ช่วยผ่อนคลายอารมณ์สมาชิกใน้บ้านได้อย่างดี เพราะกลิ่นสามารถบำบัดอารมณ์เศร้า เหงา เสียใจ ได้ ซึ่งจุดที่แนะนำคือ ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ เพราะเป็นจุดที่อาศัยบ่อยและมีเรื่องมากมายให้คิด โดยเครื่องหอมที่ได้รับความนิยมสำหรับใช้ในบ้านจะเป็นพวกเครื่องพ่นไอน้ำอโรม่า ก้านไม้หอม ฯลฯ 

5. โทนสีเพิ่มความสบายตา

โทนสีคือสิ่งสำคัญมากสำหรับการตกแต่งบ้าน เพราะสีมีผลต่อความรู้สึกทางสายตา เช่น สีดำจะทำให้บ้านดูอึดอัด แคบลง ในขณะที่สีสดใสหรือโทนอบอุ่น จะช่วยให้บ้านกว้างขึ้น น่าอยู่ขึ้น

ซึ่งการแต่งบ้านนั้นคือการใช้เฉดสีสร้างอารมณ์เช่น ถ้าบ้านโทนน้ำตาล การเลือกเฟอร์นิเจอร์สีเนื้อไม้ จะช่วยให้บ้านดูมีสไตล์ หรือ ถ้าทำเฟอร์นิเจอร์สีเขียวมาตกแต่ง จะทำให้บ้านเรียบหรูขึ้น นอกจากนี้การตกแต่งโทนสีบ้าน เป็นการบอกลักษณะตัวตนของเจ้าบ้านอีกด้วย

6. สร้างมุมสบายๆ ของคุณเอง

เชื่อว่าทุกคนต่างก็มีมุมโปรดภายในบ้านจะเป็นห้องนอนหรือห้องนั่งเล่นก็ได้ ฉะนั้นคุณควรจัดโซนพื้นสบายของตัวคุณเองซักจุดที่สามารถเอนตัวลงผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่หลังจากเหนื่อยจากการทำงานมาตลอดทั้งวัน เช่น โซฟานุ่มๆ หน้าทีวี มุมที่นั่งสำหรับอ่านหนังสือ ฯลฯ

สไตล์ตกแต่งบ้านที่กำลังได้รับความนิยม

พูดถึงการตกแต่งไปแล้ว มาดูสไตล์การตกแต่งบ้านที่ได้รับความนิยมมากในปีนี้ ซึ่งแต่ละแบบมีเอกลักษณ์โดดเด่นที่บ่งบอกถึงอารมณ์เจ้าของบ้านอย่างชัดเจน

Minimal Style 

แนวมินิมอลได้รับความนิยมในปีนี้มาก และเป็นสไตล์ที่มักถูกตกแต่งที่บ้านคอนโด โทนสีคือ ครีมน้ำตาล ครีมเหลือง โทนน้ำตาลอุ่น สีส่วนใหญ่จะให้ความรู้สึกเงียบสงบ ยิ่งถ้ามีแสงเข้ามาตัดกับเฟอร์นิเจอร์ จะยิ่งมีความมินิมอล แต่ยังมีความรู้สึกที่ทันสมัยอยู่ เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อไม้ หรือโทนสีขาวเน้นดีไซน์ที่เรียบ สะอาดตา ทำให้บ้านมีกลิ่นความญี่ปุ่นเข้ามาผสม

Modern Luxury

ความโมเดิร์นหรูหรา เป็นสไตล์ตกแต่งคอนโดที่สาวๆ ชื่อชอบอย่างมาก โดยความหรูหรานี้เต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์โดดเด่นหรือจะเป็นดีไซน์ยุโรป เพื่อสื่อถึงความโมเดิร์น หรูหรา ทันสมัย เช่น ลายหินอ่อน ผ้าขนสัตว์หรือใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เป็นวัสดุโลหะ มีความมันวาว ช่วยให้บ้านหรูหรามากขึ้น โทนสีเป็นได้ทั้งโทนสีเงิน สีทอง หรือสีที่คุณชอบได้เพราะสีเงินจะแมทกับสีอื่นได้ง่าย

Loft

านสไตล์นี้สื่อถึงความลึกลับน่าค้นหาโทนสีจะมีความเข้มคือสีดำ เทาเข้ม กำแพงบ้านก็จะปล่อยเป็นสีปูนเปลือย ใช้โครงสร้างเหล็กในการตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์จะไม่เยอะเท่าไหร่ เน้นดีไซน์เหลี่ยม สไตล์ลอฟต์นี้นอกจากนิยมตกแต่งบ้านและคอนโดแล้ว ยังรวมถึงบาร์หรือร้านอาหารด้วย

การจะตกแต่งบ้านให้น่าอยู่และมีดีไซน์สวยในแบบที่ต้องการ ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิดเพราะ

ร้านเฟอร์นิเจอร์ดังๆ ของประเทศจะมีพื้นที่โชว์ตกแต่งบ้านในสไตล์ต่างๆ ไว้แล้ว เพื่อเป็นไอเดีย

สำหรับคนซื้อบ้าน ทำให้มีสินค้ามากมายรอคุณไปจับจองเป็นเจ้าของหรือหากต้องการซื้อเฟอร์นิเจอร์เพิ่มเพื่อตกแต่ง แต่งบน้อย ทาง ธอส มีสินเชื่อเพื่อการตกแต่งบ้านให้คุณได้ดีไซน์บ้านในฝันแบบที่ใจต้องการ

วิธีแต่งบ้าน ให้น่าอยู่  3